ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
ระบบสารสȨทศ




        ในปัจจุบนระบบสารสȨทศมีความสาคัญและความจาเป็นอย่างยิ่ง ในการดาเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะ
                   ั
เป็น หน่วยงานรัฐบาลหรือเอกชน โดยอาศัยกระบวนข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่ กระบวนทีทาให้เกิดสารสนเทศนี้เรียกว่า
                                                                           ่
การประมวลผลสารสนเทศ (Information Technology) และเรียกวิธีการประมวลผลสารสนเทศด้วยเครื่องมอืทาง
อิเล็กทรอนิกส์ นี้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ     เทคโนโลยีสารสนเทศ มากจากคา 2 คาา นั่นคือ เทคโนโลยี และ
สารสนเทศเทคโนโลยี หมายถึง การนาเอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์
สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลแล้ว การประมวลผลที่ว่านี้ เช่น การวิเครราะห์ การจัดลาดับ การเรียง
ข้อมูล เป็นต้น
ความหมายสารสȨทศ




       ระบบสารสȨทศ (Information System ) หมายถึง ระบบที่มีการนาคอมพิวเตอร์
มาช่วยในการรวบรวม จัดเก็บ หรือจัดการกับข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ข้อมุลนั้นกลายเป็น
สารสนเทศทีดี สามารถนาไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจได้ในเวลาอันรวดเร็วและถูกต้อง
           ่




          ระบบสารสȨทศประกอบด้วยองค์ประกอบดังนี้
                1. Hardware หมายถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการจัดกระทากับข้อมูล
ทั้งทีเ่ ป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องคิดเลข
                 2. Software หมายถึง ชุดคาสั่ง หรือเรียกให้เข้าง่ายว่า โปรแกรม ที่สามารถ
สั่งการให้คอมพิวเตอร์ทางานในลักษณะที่ต้องการภายใต้ขอบเขตความสามารถที่เครื่อง
คอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรมนัน ๆ สามารถทาได้ ซอร์ฟแวร์แบ่งออกเป็น ซอร์ฟแวร์ระบบ
                               ้
และ ซอร์ฟแวร์ประยุกต์
3 User หมายถึง กลุ่มผุ้คนที่ทางานหรือเกี่ยวข้องกับระบบสารสȨทศ
               4. Data หมายถึง ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่อาจอยูในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
                                                          ่
ตัวหนังสือ แสง สี เสียง สัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ ภาพ วัตถุ หรือ หลาย ๆ อย่างผสมผสาน
กัน ซึ่งข้อมูลที่ดจะต้องตรงกับความต้องการของผู้ใช้
                  ี
               5. Procedure หมายถึง ขั้นตอน กระบวนการต่าง ๆ ในการปฏิบติงาน  ั
ในระบบสารสȨทศ

             เมื่อทั้ง 5 ส่วนดังกล่าวข้างต้น ทางานประสานกัน ส่งผลให้ข้อมูลเกิดการ
ประมวลผลและนาไปใช้ประโยชน์ นั่นก็คือ สารสนเทศนั่นเอง
              ซึ่งสารเสนทศนีจะเป็นสารสนเทศที่ดี จะต้องเป็นสารสนเทศที่มีความถูกต้อง
                                ้
ตรงกับความต้องการของผูใช้และทันเวลาในการใช้งาน
                            ้
              กล่าวโดยสรุปก็คือ กระบวนการสารสนเทศเป็นกระบวนการที่ทาให้เกิด
สารเสนเทศขึ้นมานันเอง ซึ่งจะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบสาคัญ 5 ส่วน นั่นคือ
                   ่
Hardware Software User Procedure และ Data
เพิ่มประสิทธิภาพในการทางาน (Increase Work Efficiency )
              องค์กรสามารถนาระบบสารสȨทศมาช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการทางาน
ภายใต้สภาวะที่มีกาลังคนและกาลังการผลิตที่เท่าเดิม แต่ปริมารงานที่ทามีมากขึน
                                                                          ้
การนาระบบสารสȨทศมาใช้จะช่วยทาให้ทางานสะดวก รวดเร็ว และมีความถูกต้องมากขึ้น

           เพิ่มผลิตให้แกองค์กร (Increase Productivity )
              ตัวอย่างเช่นมีการนาระบบควบคุมการผลิตมาใช้ ทาให้องค์กรสามารถผลิต
สินค้าหรือบริการได้มากขึ้นทเพียงพอต่อความต้องการของตลาดเป็นต้น

             เพิ่มคุณภาพในการบริการลูกค้า (Increase service Quality )
                 ระบบสารสȨทศถูกนามาใช้พัฒนาการใฟห้บริการลูกค้า เพื่อเพิ่ม
ความพึงพอใจในการใช้บริการของลูกค้า เช่น ระบบสอบถามและจองตั๋วเครื่องบินผ่าน
อินเตอร์เน็ต โดยที่ไม่ต้องเดินททางมาเอง เป็นต้น

            เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน (Increase Competitive Advantage )
              ข้อมูลนับว่ามีความสาคัญมาก ในทางธุรกิจ ดังนันจึงจาเป็นที่จะต้องมี
                                                            ้
การบริหารจัดการข้อมูลทีดี เพื่อนาเอาข้อมุลเหล่านั้นมาใช้ในการสนับสนุนการตัดสินใจ
                         ่
เพื่อ นามาพัฒนา ปรับปรุงองค์กร
ประเภทของระบบสารสȨทศ
         มีงานหลายงานทางธุรกิจที่ต้องการให้เกิดการทางานที่เป็นอัตโนมัติ
ระบบสารสȨทศจึงเป็นสิ่งที่มความจาเป็นมากขึ้น ระบบสารสȨทศที่นามา
                           ี
ใช้เพื่อช่วยในการทางานนั้นมีหลายระบบ บางระบบอาจออกแบบมาเพื่อช่วย
ให้สามารถรวบรวมข้อมูลได้รวดเร็ว บางระบบอาจถูกออกแบบมาเพื่อช่วย
ในวิเคราะห์และตัดสินใจ ระบบสารสȨทศเหล่านี้สามารถทางานได้เสร็จ
ภายในระบบย่อยเพียงระบบเดียว หรือสามารถทางานร่วมกันในหลาย ๆ ระบบ
สาหรับองค์กรที่มขนาดใหญ่
                ี
     ระบบสารสȨทศสามารถแยกตามหน้าที่ที่แตกต่างกันได้ดงนี้
                                                     ั
      1. ระบบสานักงานอัตโนมัติ (Office Automatic System หรือ OAS )

      2. ระบบประมวลผลรายการประจาวัน

         (Transaction Processing System       หรือ TPS)
      3. ระบบสารสȨทศเพื่อการจัดการ

         (Management Information System หรือ MIS )

      4. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ

         (Decision Support System หรือ DSS)

      5. ระบบสารสȨทศเพื่อผู้บริหารระดับสูง

          (Executive Informaion Systyem       หรือ EIS )
      6. ระบบผู้เชี่ยวชาญ (Excpert System หรือ ES )
การพัฒนาระบบสารสȨทศ

      การที่ระบบสารสȨทศจะสามารถทางานได้ตรงตามความต้องการ รวดเร็ว และถูกต้อง
ได้นั้นจาเป็นต้องมีการสร้างระบบสารสȨทศที่มีประสิทธิภาพ โดยใช้กระบวนการพัฒนา
ระบบที่เรียกว่า ขั้นตอนการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ (Systems Delopment Life Cycle หรือ
SDLC ) ดังนี้
       1. วิเคราะห์และกาหนดความต้องการของระบบงาน
           (System Analysis and Specification )
       2. ออกแบบขั้นตอนการแก้ไขปัญหา (System Design )
       3. เขียนชุดคาสั่ง (Program Coding )
       4. ทดสอบการทางานของระบบงาน (System or Program Testing)
       5. ใช้งานและบารุงรักษาระบบ (System Implementaion and Maintenance )
       6. จัดทาเอกสารประกอบระบบ (Documentation)
อ้างอิง
http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/bangkok/pich
                       ai_l/it01/it.htm
Ad

Recommended

ระบบสารสȨทศ
ระบบสารสȨทศ
053681478
ระบบสารสȨทศ
ระบบสารสȨทศ
jureeratlove
ระบบสารสน..1
ระบบสารสน..1
orathai
งานคอมบทที่ 2 การพัฒȨโครงงาȨอมพิวเตอร์
งานคอมบทที่ 2 การพัฒȨโครงงาȨอมพิวเตอร์
Chayanee Khruewan
Dss pp
Dss pp
Kruman Nathakorn
ระบบสารสȨทศ
ระบบสารสȨทศ
Manas Panjai
บทที่ 1 ระบบสารสȨทศ.pdf
บทที่ 1 ระบบสารสȨทศ.pdf
Nattapon
บทที่ 2 ระบบสารสȨทศเพื่อการจัดการ
บทที่ 2 ระบบสารสȨทศเพื่อการจัดการ
Prakaywan Tumsangwan
งานคอมบทที่ 2
งานคอมบทที่ 2
Sittisak Teanpanom
ระบบสารสȨทศและระบบเครือข่าย
ระบบสารสȨทศและระบบเครือข่าย
Sassygirl Sassyboy
คอม
คอม
tung tung
การพัฒȨโครงงาȨอมพิวเตอร์ บทที่2
การพัฒȨโครงงาȨอมพิวเตอร์ บทที่2
Saharat Yimpakdee
ระบบสารสȨทศ
ระบบสารสȨทศ
yanika12
ระบบสารสȨทศ
ระบบสารสȨทศ
siriyapa
บทที่ 5 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
บทที่ 5 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
Prakaywan Tumsangwan
งาȨำเสนอ1คอม
งาȨำเสนอ1คอม
kotyota
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การพัฒȨโครงงาȨอมพิวเตอร์ป...
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การพัฒȨโครงงาȨอมพิวเตอร์ป...
Pawit Chamruang
งานคอม บท2
งานคอม บท2
DiZz Tang Art Zii
อรณี มารดาวงค์
อรณี มารดาวงค์
orathai
ระบบสารสȨทศ
ระบบสารสȨทศ
Patipan Infinity
บทที่ 1. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 1. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
Pokypoky Leonardo
จรรยพร
จรรยพร
junyapron

More Related Content

What's hot (13)

บทที่ 1 ระบบสารสȨทศ.pdf
บทที่ 1 ระบบสารสȨทศ.pdf
Nattapon
บทที่ 2 ระบบสารสȨทศเพื่อการจัดการ
บทที่ 2 ระบบสารสȨทศเพื่อการจัดการ
Prakaywan Tumsangwan
งานคอมบทที่ 2
งานคอมบทที่ 2
Sittisak Teanpanom
ระบบสารสȨทศและระบบเครือข่าย
ระบบสารสȨทศและระบบเครือข่าย
Sassygirl Sassyboy
คอม
คอม
tung tung
การพัฒȨโครงงาȨอมพิวเตอร์ บทที่2
การพัฒȨโครงงาȨอมพิวเตอร์ บทที่2
Saharat Yimpakdee
ระบบสารสȨทศ
ระบบสารสȨทศ
yanika12
ระบบสารสȨทศ
ระบบสารสȨทศ
siriyapa
บทที่ 5 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
บทที่ 5 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
Prakaywan Tumsangwan
งาȨำเสนอ1คอม
งาȨำเสนอ1คอม
kotyota
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การพัฒȨโครงงาȨอมพิวเตอร์ป...
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การพัฒȨโครงงาȨอมพิวเตอร์ป...
Pawit Chamruang
งานคอม บท2
งานคอม บท2
DiZz Tang Art Zii
บทที่ 1 ระบบสารสȨทศ.pdf
บทที่ 1 ระบบสารสȨทศ.pdf
Nattapon
บทที่ 2 ระบบสารสȨทศเพื่อการจัดการ
บทที่ 2 ระบบสารสȨทศเพื่อการจัดการ
Prakaywan Tumsangwan
งานคอมบทที่ 2
งานคอมบทที่ 2
Sittisak Teanpanom
ระบบสารสȨทศและระบบเครือข่าย
ระบบสารสȨทศและระบบเครือข่าย
Sassygirl Sassyboy
การพัฒȨโครงงาȨอมพิวเตอร์ บทที่2
การพัฒȨโครงงาȨอมพิวเตอร์ บทที่2
Saharat Yimpakdee
ระบบสารสȨทศ
ระบบสารสȨทศ
yanika12
ระบบสารสȨทศ
ระบบสารสȨทศ
siriyapa
บทที่ 5 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
บทที่ 5 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
Prakaywan Tumsangwan
งาȨำเสนอ1คอม
งาȨำเสนอ1คอม
kotyota
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การพัฒȨโครงงาȨอมพิวเตอร์ป...
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การพัฒȨโครงงาȨอมพิวเตอร์ป...
Pawit Chamruang

Similar to 38210679 ระบบสารสȨทศ (20)

อรณี มารดาวงค์
อรณี มารดาวงค์
orathai
ระบบสารสȨทศ
ระบบสารสȨทศ
Patipan Infinity
บทที่ 1. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 1. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
Pokypoky Leonardo
จรรยพร
จรรยพร
junyapron
ใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
ใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
Duangsuwun Lasadang
บทที่ 1-ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 1-ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
Timmy Printhong
ระบบสารสȨทศและข้อมูลข่าวสาร MIS
ระบบสารสȨทศและข้อมูลข่าวสาร MIS
siriporn pongvinyoo
บทที่ 1-ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 1-ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
Timmy Printhong
ระบบสารสȨทศ
ระบบสารสȨทศ
Petch Boonyakorn
ใบความรู้ที่ 2 ระบบสารสȨทศ
ใบความรู้ที่ 2 ระบบสารสȨทศ
Ko Kung
อรณี มารดาวงค์
อรณี มารดาวงค์
orathai
ระบบสารสȨทศ
ระบบสารสȨทศ
Patipan Infinity
บทที่ 1. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 1. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
Pokypoky Leonardo
จรรยพร
จรรยพร
junyapron
ใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
ใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
Duangsuwun Lasadang
บทที่ 1-ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 1-ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
Timmy Printhong
ระบบสารสȨทศและข้อมูลข่าวสาร MIS
ระบบสารสȨทศและข้อมูลข่าวสาร MIS
siriporn pongvinyoo
บทที่ 1-ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 1-ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
Timmy Printhong
ระบบสารสȨทศ
ระบบสารสȨทศ
Petch Boonyakorn
ใบความรู้ที่ 2 ระบบสารสȨทศ
ใบความรู้ที่ 2 ระบบสารสȨทศ
Ko Kung
Ad

38210679 ระบบสารสȨทศ

  • 1. ระบบสารสȨทศ ในปัจจุบนระบบสารสȨทศมีความสาคัญและความจาเป็นอย่างยิ่ง ในการดาเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะ ั เป็น หน่วยงานรัฐบาลหรือเอกชน โดยอาศัยกระบวนข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่ กระบวนทีทาให้เกิดสารสนเทศนี้เรียกว่า ่ การประมวลผลสารสนเทศ (Information Technology) และเรียกวิธีการประมวลผลสารสนเทศด้วยเครื่องมอืทาง อิเล็กทรอนิกส์ นี้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ มากจากคา 2 คาา นั่นคือ เทคโนโลยี และ สารสนเทศเทคโนโลยี หมายถึง การนาเอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลแล้ว การประมวลผลที่ว่านี้ เช่น การวิเครราะห์ การจัดลาดับ การเรียง ข้อมูล เป็นต้น
  • 2. ความหมายสารสȨทศ ระบบสารสȨทศ (Information System ) หมายถึง ระบบที่มีการนาคอมพิวเตอร์ มาช่วยในการรวบรวม จัดเก็บ หรือจัดการกับข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ข้อมุลนั้นกลายเป็น สารสนเทศทีดี สามารถนาไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจได้ในเวลาอันรวดเร็วและถูกต้อง ่ ระบบสารสȨทศประกอบด้วยองค์ประกอบดังนี้ 1. Hardware หมายถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการจัดกระทากับข้อมูล ทั้งทีเ่ ป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องคิดเลข 2. Software หมายถึง ชุดคาสั่ง หรือเรียกให้เข้าง่ายว่า โปรแกรม ที่สามารถ สั่งการให้คอมพิวเตอร์ทางานในลักษณะที่ต้องการภายใต้ขอบเขตความสามารถที่เครื่อง คอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรมนัน ๆ สามารถทาได้ ซอร์ฟแวร์แบ่งออกเป็น ซอร์ฟแวร์ระบบ ้ และ ซอร์ฟแวร์ประยุกต์
  • 3. 3 User หมายถึง กลุ่มผุ้คนที่ทางานหรือเกี่ยวข้องกับระบบสารสȨทศ 4. Data หมายถึง ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่อาจอยูในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ่ ตัวหนังสือ แสง สี เสียง สัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ ภาพ วัตถุ หรือ หลาย ๆ อย่างผสมผสาน กัน ซึ่งข้อมูลที่ดจะต้องตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ี 5. Procedure หมายถึง ขั้นตอน กระบวนการต่าง ๆ ในการปฏิบติงาน ั ในระบบสารสȨทศ เมื่อทั้ง 5 ส่วนดังกล่าวข้างต้น ทางานประสานกัน ส่งผลให้ข้อมูลเกิดการ ประมวลผลและนาไปใช้ประโยชน์ นั่นก็คือ สารสนเทศนั่นเอง ซึ่งสารเสนทศนีจะเป็นสารสนเทศที่ดี จะต้องเป็นสารสนเทศที่มีความถูกต้อง ้ ตรงกับความต้องการของผูใช้และทันเวลาในการใช้งาน ้ กล่าวโดยสรุปก็คือ กระบวนการสารสนเทศเป็นกระบวนการที่ทาให้เกิด สารเสนเทศขึ้นมานันเอง ซึ่งจะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบสาคัญ 5 ส่วน นั่นคือ ่ Hardware Software User Procedure และ Data
  • 4. เพิ่มประสิทธิภาพในการทางาน (Increase Work Efficiency ) องค์กรสามารถนาระบบสารสȨทศมาช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการทางาน ภายใต้สภาวะที่มีกาลังคนและกาลังการผลิตที่เท่าเดิม แต่ปริมารงานที่ทามีมากขึน ้ การนาระบบสารสȨทศมาใช้จะช่วยทาให้ทางานสะดวก รวดเร็ว และมีความถูกต้องมากขึ้น เพิ่มผลิตให้แกองค์กร (Increase Productivity ) ตัวอย่างเช่นมีการนาระบบควบคุมการผลิตมาใช้ ทาให้องค์กรสามารถผลิต สินค้าหรือบริการได้มากขึ้นทเพียงพอต่อความต้องการของตลาดเป็นต้น เพิ่มคุณภาพในการบริการลูกค้า (Increase service Quality ) ระบบสารสȨทศถูกนามาใช้พัฒนาการใฟห้บริการลูกค้า เพื่อเพิ่ม ความพึงพอใจในการใช้บริการของลูกค้า เช่น ระบบสอบถามและจองตั๋วเครื่องบินผ่าน อินเตอร์เน็ต โดยที่ไม่ต้องเดินททางมาเอง เป็นต้น เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน (Increase Competitive Advantage ) ข้อมูลนับว่ามีความสาคัญมาก ในทางธุรกิจ ดังนันจึงจาเป็นที่จะต้องมี ้ การบริหารจัดการข้อมูลทีดี เพื่อนาเอาข้อมุลเหล่านั้นมาใช้ในการสนับสนุนการตัดสินใจ ่ เพื่อ นามาพัฒนา ปรับปรุงองค์กร
  • 5. ประเภทของระบบสารสȨทศ มีงานหลายงานทางธุรกิจที่ต้องการให้เกิดการทางานที่เป็นอัตโนมัติ ระบบสารสȨทศจึงเป็นสิ่งที่มความจาเป็นมากขึ้น ระบบสารสȨทศที่นามา ี ใช้เพื่อช่วยในการทางานนั้นมีหลายระบบ บางระบบอาจออกแบบมาเพื่อช่วย ให้สามารถรวบรวมข้อมูลได้รวดเร็ว บางระบบอาจถูกออกแบบมาเพื่อช่วย ในวิเคราะห์และตัดสินใจ ระบบสารสȨทศเหล่านี้สามารถทางานได้เสร็จ ภายในระบบย่อยเพียงระบบเดียว หรือสามารถทางานร่วมกันในหลาย ๆ ระบบ สาหรับองค์กรที่มขนาดใหญ่ ี ระบบสารสȨทศสามารถแยกตามหน้าที่ที่แตกต่างกันได้ดงนี้ ั 1. ระบบสานักงานอัตโนมัติ (Office Automatic System หรือ OAS ) 2. ระบบประมวลผลรายการประจาวัน (Transaction Processing System หรือ TPS) 3. ระบบสารสȨทศเพื่อการจัดการ (Management Information System หรือ MIS ) 4. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support System หรือ DSS) 5. ระบบสารสȨทศเพื่อผู้บริหารระดับสูง (Executive Informaion Systyem หรือ EIS ) 6. ระบบผู้เชี่ยวชาญ (Excpert System หรือ ES )
  • 6. การพัฒนาระบบสารสȨทศ การที่ระบบสารสȨทศจะสามารถทางานได้ตรงตามความต้องการ รวดเร็ว และถูกต้อง ได้นั้นจาเป็นต้องมีการสร้างระบบสารสȨทศที่มีประสิทธิภาพ โดยใช้กระบวนการพัฒนา ระบบที่เรียกว่า ขั้นตอนการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ (Systems Delopment Life Cycle หรือ SDLC ) ดังนี้ 1. วิเคราะห์และกาหนดความต้องการของระบบงาน (System Analysis and Specification ) 2. ออกแบบขั้นตอนการแก้ไขปัญหา (System Design ) 3. เขียนชุดคาสั่ง (Program Coding ) 4. ทดสอบการทางานของระบบงาน (System or Program Testing) 5. ใช้งานและบารุงรักษาระบบ (System Implementaion and Maintenance ) 6. จัดทาเอกสารประกอบระบบ (Documentation)